หากจะพูดถึงภาพยนตร์ในยุคเริ่มแรกของวงการบันเทิง น้อยคนนักที่จะนึกถึง “The Great Train Robbery” หรือ “การปล้นรถไฟ” ภาพยนตร์สั้นความยาวเพียง 12 นาที ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Edwin S. Porter ในปี ค.ศ. 1903 แม้ว่าจะผ่านไปกว่าร้อยปีแล้ว แต่ผลงานชิ้นนี้ก็ยังคงเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ และถือเป็นการจุดประกายให้เกิด genre แอ็คชั่นในวงการภาพยนตร์
เรื่องราวและเทคนิคการถ่ายทำที่ล้ำสมัย
“The Great Train Robbery” เล่าถึงกลุ่มโจรผู้ชั่วร้าย ที่วางแผนปล้นรถไฟ โดยนำแสดงโดย Frank O’Donnell ในบทบาทหัวหน้าแก๊งโจร
ภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่นด้วยการนำเสนอเรื่องราวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเทคนิคใหม่ในสมัยนั้น Porter ได้ใช้เทคนิคการตัดต่อ (editing) ที่ชาญฉลาดในการเชื่อมโยงฉากต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างราบรื่น และยังใช้เทคนิคการถ่ายภาพเคลื่อนไหว (motion picture) เพื่อสร้างความรู้สึกตื่นเต้นและน่าติดตาม
นอกจากนี้ “The Great Train Robbery” ยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ใช้เทคนิค close-up ในการเน้นแสดงอารมณ์ของตัวละคร และการแสดงออกของนักแสดง ซึ่งทำให้ผู้ชมสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง
ความสำเร็จและอิทธิพลของ “The Great Train Robbery”
เมื่อเปิดตัวในปี ค.ศ. 1903 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ผู้ชมต่างตื่นตาตื่นใจกับภาพยนตร์แอ็คชั่นที่เต็มไปด้วยความมันส์และลุ้นระทึก
ความสำเร็จของ “The Great Train Robbery” ได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้กำกับภาพยนตร์คนอื่นๆ และกลายเป็นต้นแบบสำหรับภาพยนตร์แอ็คชั่นในยุคต่อมา
เทคนิคการถ่ายทำและวิธีการเล่าเรื่องที่Porter นำมาใช้ ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้และพัฒนาต่อยอดโดยผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นต่อมา จนกลายเป็นมาตรฐานของภาพยนตร์แอ็คชั่นในปัจจุบัน
“The Great Train Robbery” : รากเหง้าของภาพยนตร์แอ็คชั่น และมรดกที่ไม่ลืมเลือน
“The Great Train Robbery” ไม่ได้มีเพียงความสนุกตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพยนตร์ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างสูง
มันเป็นตัวแทนของการพัฒนาและความก้าวหน้าของวงการภาพยนตร์ในยุคเริ่มต้น และเป็นต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้กำกับภาพยนตร์และนักแสดงรุ่นต่อมา
หากท่านมีโอกาสได้ชม “The Great Train Robbery” โปรดจดจำว่า ท่านกำลังได้สัมผัสกับรากเหง้าของภาพยนตร์แอ็คชั่น และมรดกอันล้ำค่าที่ยังคงสืบทอดมาถึงทุกวันนี้.