Romeo + Juliet ความรักสุดtragic ที่นำแสดงโดย Leonardo DiCaprio และ Claire Danes

หากพูดถึงภาพยนตร์ในปี 1996 เรื่องหนึ่งที่ฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของผู้ชมจำนวนมากก็คงหนีไม่พ้น “Romeo + Juliet” ผลงานของ Baz Luhrmann ผู้กำกับชื่อดังผู้ชื่นชอบการผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทละครโศกนาฏกรรมอมตะของวิลเลียม เชคสเปียร์ “Romeo and Juliet” แต่ Luhrmann ได้นำเสนอออกมาในรูปแบบที่ทันสมัยและมีพลังยิ่งกว่าเดิม ตัวละครยังคงเป็น Romeo และ Juliet เช่นเดียวกับบทละครดั้งเดิม แต่ถูกย้ายมาอยู่ในเวอร์ชันยุค 90 ที่เต็มไปด้วยสีสัน ความรุนแรง และดนตรี électro-pop

Leonardo DiCaprio รับบท Romeo หนุ่มหล่อลูกชายตระกูล Montague ซึ่งตกหลุมรัก Juliet (Claire Danes) ลูกสาวของตระกูล Capulet ตะวันทั้งสองตระกูลเป็นศัตรูกันมานาน ความรักที่เกิดขึ้นจึงต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย

Luhrmann เลือกใช้ฉากเมืองเวนิสในยุคปัจจุบันเป็นพื้นหลังของเรื่องราว ตัวละครแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสมัยใหม่ สวมหูฟัง และขับรถมอเตอร์ไซค์ อย่างไรก็ตาม บทสนทนาและการดำเนินเรื่องยังคงดัดแปลงมาจากบทละครของเชคสเปียร์

สิ่งที่ทำให้ “Romeo + Juliet” กลายเป็นภาพยนตร์อมตะก็คือ

• การแสดงอันทรงพลัง: DiCaprio และ Danes แสดงได้อย่างโดดเด่น chimie ระหว่างทั้งคู่ชัดเจน ทำให้ผู้ชมอินไปกับความรักห้ามใจของ Romeo และ Juliet

• ดนตรีประกอบที่ไพเราะ: Luhrmann สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและตึงเครียดด้วยเพลงจากศิลปินดังยุค 90 เช่น Radiohead, Garbage และ The Cardigans

• ภาพยนตร์ที่สวยงาม: ฉากเมืองเวนิสถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงาม

“Romeo + Juliet” เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบทละครของเชคสเปียร์หรือต้องการสัมผัสประสบการณ์การชมภาพยนตร์รักโศกนาฏกรรมที่สร้างสรรค์และน่าจดจำ

บทบาทของตัวละครหลัก:

“Romeo + Juliet” ไม่ใช่เพียงแค่การนำเอาบทละครโศกนาฏกรรมมาทำใหม่ แต่ Luhrmann ยังได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่ทันสมัยและน่าจดจำด้วย

เหตุผลที่ “Romeo + Juliet” เป็นภาพยนตร์คลาสสิค:

• ความรักที่บริสุทธิ์: Romeo และ Juliet ถึงแม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่ความรักของพวกเขาก็ยังคงบริสุทธิ์และสมบูรณ์

• การแสดงที่โดดเด่น: DiCaprio และ Danes แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับความรักของ Romeo และ Juliet

• ดนตรีประกอบที่ไพเราะ: เพลงในภาพยนตร์ถูกคัดเลือกมาอย่างดี ช่วยสร้างบรรยากาศให้สมจริงและน่าจดจำ

• ภาพยนตร์ที่สวยงาม: ฉากเมืองเวนิสถูกถ่ายทอดออกมาอย่างงดงาม

“Romeo + Juliet” เป็นภาพยนตร์รักโศกนาฏกรรมที่ทุกคนควรได้ดูอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต

คำวิจารณ์จากนัก phê bình phim:

• “Luhrmann ได้สร้างภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่และมีพลัง… DiCaprio และ Danes แสดงได้อย่างยอดเยี่ยม” - Roger Ebert, Chicago Sun-Times
• “Romeo + Juliet เป็นภาพยนตร์รักโศกนาฏกรรมที่ทันสมัยและน่าจดจำ” - Janet Maslin, The New York Times

“Romeo + Juliet” เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม แต่ยังทำให้เราได้นึกถึงความสำคัญของความรัก ความภักดี และการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง